วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ฮีโร่..เพื่อใคร?

ช่วงนี้รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีเลยค่ะ แก่แล้วยังไม่วายทำตัวเกเรอีก สาเหตุก็มาจาก การที่เห็นเพื่อนหรือคนที่เรารู้จักมักคุ้น และผู้คนรอบตัวถูกรังแกนั่นเอง ไม่รู้เป็นไง นะคะ ทั้งที่เรื่องของตัวเองก็ไม่ใช่ แต่ก็อดใจไม่ได่ที่จะต้อง แถเข้าไปปกป้องทุกที แต่สงสัยปกป้องเกินเหตุไปหน่อย เลยพลอยทำให้ใครต่อใครเขามองเราแย่ไปตามๆกัน อดถามตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่า "มันคุ้มแล้วหรือ?"

 อย่างที่แตบเคยบอกกล่าวไปแล้วนะคะว่า สมัยที่แตบยังเป็นเด็ก แตบชอบดูหนังแนวต่อสู้ ชนิดที่บู๊ดุเดือด มากเป็นชีวิต จิตใจ ยิ่งหนังเรื่องไหนที่พระเอก-นางเอกเป็นฮีโร่ด้วยแล้ว ยิ่งชอบใจเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าหนังจะจบไปแล้วแต่แตบก็ยังเก็บความประทับใจอันนั้นเอาไว้ไม่ลืมเลือน เป็นผลให้เกิดสัญญากับตัวเองในใจเรื่อยมา ว่าสักวันเราจะเป็นอย่างฮีโร่ในหนังให้ได้(ตามประสาเด็กๆ) จวบจนกระทั่งแตบเติบใหญ่เจริญวัยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ที่อายุเกือบจะ 40 ในอีก ปีกว่าๆที่จะถึงนี้ แตบก็ยังไม่เคยลืมเลือนความรู้สึกภาคภูมิของการเป็นฮีโร่จากเมื่อครั้งยังเยาว์ได้ หรืออาจเป็นเพราะแตบมีสายเลือดนักเลงของพ่อ-แม่นะ ที่ทำให้แตบมีความ "สู้คน" มากเกินเหตุอย่างนี้

 วันนี้แตบตื่นเช้าเป็นวันที่สองในรอบเดือน(ปกติจะตื่นช่วงบ่ายแก่ๆ) อากาศช่วงต้นฤดูหนาวฉาบด้วยลมเย็นอ่อนๆ ทำให้รู้สึกสะท้านได้เล็กๆ แต่ก็เย็นสดชื่นดี บรรยากาศตอนเช้าตรู่แถวบ้านแตบจะค่อนข้างเงียบสงบค่ะ ด้วยความเงียบสงบนี้เองมั้ง ที่ทำให้แตบมีสมาธิคิดทวบทวนพฤติกรรมที่ผ่านมาของตัวเองได้ คำถามต่างๆผุดขึ้นมากมายในสมอง แต่แตบก็ไม่สับสนหรอกค่ะ ค่อยๆใช้สมาธิที่มีอยู่จับเรียงลำดับ มาปะติดปะต่อกันที่ละข้อ สองข้อ ได้จนครบถ้วน จากนั้นก็ค่อยๆหาคำตอบให้กับตัวเองไป มิน่าล่ะคะ พระท่านถึงสอนว่า "สมาธิมา ปัญญาเกิด" ในที่สุดแตบก็ได้คำตอบในข้อที่ว่า "ฮีโร่..เพื่อใคร?" ใช่ค่ะ การเป็นฮีโร่ของพระเอก-นางเอกในหนังนั้น เพื่อช่วยเหลือปกป้องเพื่อนมนุษย์ที่กำลังเดือดร้อน และ ถูกรังแก ให้ได้รับความปลอดภัย มีความสุขในการดำเนินชีวิตต่อไป แต่ทั้งหมดทั้งมวล มันเป็นแค่เหตุการณ์สมมุติที่เกิดจากจินตนาการทั้งสิ้น ในขณะที่ชีวิตจริงของคนเรา มันคงยากที่เราจะไปช่วยใครต่อใครได้มากมายทั่วถึงอย่างนั้น เพราะเราเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีแค่ 2 มือ เท่านั้นเอง แต่ต่อให้เราเก่งกาจสามารถแค่ไหน ก็ใช่ว่า ใครต่อใครจะเห็นดีเห็นงามในวิธีการของเราด้วย ดีไม่ดีเราจะกลายเป็นฝ่ายที่ทำร้ายตัวเองอย่างไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ อย่างน้อยๆก็ต้องมีคนถามว่า "เรื่องอะไรของเธอยะ..แส่อะไรด้วย?" ซึ่งถ้าเก็บมาคิดดูให้ดีแล้ว คำนี้มันรุนแรงยิ่งกว่าการถูกตบหน้าด้วยรองเท้าเสียอีก และลองคิดดูในทางกลับกัน หากฮีโร่อย่างเราเป็นฝ่ายถูกทำร้ายบ้าง..จะมีใครกล้าหาญมาช่วยบ้างไหม?..อาจจะพอมี หรืออาจจะไม่มี ซึ่งนั่นก็หมายความว่า "คงหายากพอสมควร"

 อืมม์..จริงๆด้วยค่ะ หลายครั้งที่ผ่านมาแตบจะเป็นฝ่ายแส่ไปเอง ทั้งๆที่บางครั้งเราไม่เคยรู้ข้อเท็จจริงอะไรมาก่อนด้วยซ้ำ แต่เรากลับโดดเข้าไปต่อสู้ห้ำหั่นใครต่อใครอย่างไม่ลืมหูลืมตา ลองคิดๆดูว่า หากเขาคนนั้นเป็นคนดีจริง มันก็ดีไป แต่หากเป็นคนที่ตรงกันข้าม ก็เท่ากันเราปกป้องคนผิด นอกจากสังคมจะรุมประณามแล้ว ไอ้เจ้าคนที่เรากำลังปกป้องอยู่นั้น คงแอบคิดเย้ยหยันเราอยู่เงียบๆว่า "โธ่เอ๊ย..นังโง่!" ก็เป็นได้

หากใครมีวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกับแตบก็ลองเก็บเอาไปคิดดูนะคะ เผื่อจะได้คำตอบที่ดีๆให้กับตัวเอง ที่สำคัญ ถึงคุณจะเป็นฮีโร่ให้สังคมไม่ได้ แต่คุณก็ยังมีสิทธิ์เป็นฮีโร่ให้ตัวเองได้เสมอ เพียงแค่ คิดดี ทำดี และไม่เบียดเบียนใคร คุณก็มีคุณค่ามากพอแล้วค่ะ

2 ความคิดเห็น:

memorry กล่าวว่า...

เป่งเหมือนกันเลยง่ะ เพื่อนลุยไหนลุยกัน
"เพื่อนเจ็บฉันก้อเจ็บเหมือนกัน" หุหุ

ใจนักเลง คาราวะ 1 จอก

nachaphatk กล่าวว่า...

สวัสดีครับ
มัวแต่นอนซมกับพิษไข้ ไม่ได้มาติดตามเลยครับ เมื่อวานนี้ (ศุกร์) กะจะลาอีก 1 วันก็ดันมีงานเข้าเลยต้องมาเคลียร์เคสให้เสร็จ ปาไปเกือบ 3 ทุ่ม นะครับ ยังนึกถึงเรื่องสนุกๆชองพี่แตบนะครับไม่รุ้ว่าตอนนี้เขียนถึงใหน นา พอเปิดมาโอโฮ หลายเรื่องเลย
**การเป็นฮีโร่มันดีครับแต่ต้องดูโอกาสที่เหมาะสม ผมเชื่อว่าพี่เป็นคนที่รักเพื่อนมากแน่เลย สมัยก่อนก็ชอบคิดฝันอยากเป็นโนน่เป็นนี่เหมือนในหนังนะครับ แต่ ของผมนี่ชอบดู แนวจักรๆวงศ์ๆ เลยอยากเป็นพระเอก เคยออกไปกลางทุ่งนา วิ่งขึ้นไปบนเนินสูงๆแล้วกระโดลงมาคิดว่ากำลังแปลงร่างเป้นอะไรสักอย่าง บางทีก็ปีนขึ้นต้นไม้ ทำอะไรบ้าบอคับ มิน่าสมัยนี้เขาถึงมี ข้อควมาเตือนว่า **รายการนี้เหมาะสำหรับ ...**