วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

สวยด้วย"หัวผักกาดขาว"


..ถึงแม้ว่า รูปร่างหน้าตาที่สวยงามภายนอกจะเป็นเพียงสิ่งที่เรียกว่า"เปลือก"ก็ตามที แต่ใครต่อใครมักเลือกที่จะสะดุดตาและประทับใจกับคนที่มีรูปลักษณ์ดีไว้ก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ ส่วนนิสัยใจคอภายในจะดีหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันต่อไป เรียกได้ว่าถึงจิตใจและความประพฤติภายในจะเน่าเฟะเพียงใด ทุกคนย่อมเลือกที่จะทำให้เปลือกภายนอกดูดีไว้ก่อนเสมอ ด้วยเหตุผลที่ว่า.."เปลือกที่ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง"นั่นเองล่ะค่ะ
 ย้อนหลังไปเมื่อสมัยพระเจ้าเหามหาราชที่ 13 แตบเป็นคนหนึ่งที่ได้รับคำสรรเสริญเยินยอว่าเป็น"หนุ่มหน้าใส"คนหนึ่ง(ไม่ได้เขียนผิดนะคะ..เป็นหนุ่มจริงๆ) มีเพื่อนชายและชะนีมากหน้าหลายตามากระซิบถามเคล็ดลับการบำรุงผิวพรรณกับแตบอยู่บ่อยๆ ซึ่งแตบก็แนะนำไปว่า.."ควรรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ดื่มน้ำ,ดื่มนม และกินผลไม้ให้มากๆ" แต่เนื่องจากแตบเป็นหนุ่มประเภทรักสวยรักงาม เลยต้องบำรุงบำเรอผิวพรรณด้วยครีมบำรุงผิวทุกเช้า,เย็นไม่ได้ขาด รวมถึงการนวดหน้า,ขัดหน้าและพอกหน้าเอง(ทุกวัน)ด้วยผงสมุนไพรชนิดต่างๆที่มีสรรพคุณช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ซึ่งนับว่าได้ผลดีมากมายเหลือเกิน แต่หารู้ไม่ว่า นั่นมันเป็นการทำร้ายผิวตัวเองชัดๆ เพราะจริงๆแล้ว การขัดหน้านั้นควรทำสัปดาห์ละครั้ง หรือ สองสัปดาห์ต่อครั้งก็เพียงพอแล้ว แต่นี่แตบเล่นขัด-นวด-พอกทุกวัน ผลที่ได้คือผิวหน้าใสและบางงงงงงจนแทบมองทะลุกระดูกซะงั้น เมื่อชั้นผิวบอบบางและอ่อนแอสุดๆแล้ว ต่อให้อภิมหาบรรพบุรุษครีมกันแดดก็ไม่สามารถคุ้มกะลาหัวแตบได้แน่นอน และนี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้แตบ "เป็นฝ้า" มาจนถึงทุกวันนี้(กรี๊ดดดดด!) คนที่เป็นฝ้าคงเข้าใจดีนะคะ ว่ามันน่าอับอายและกลัดกลุ้มแค่ไหน เวลาออกไปไหนมาไหนมันช่างทำใจได้ลำบาก เพราะเจ้าปื้นสีน้ำตาลบนใบหน้านั้น มันช่างกลบเกลื่อนได้ยากเย็นเหลือเกิน ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายด้วยแล้วยิ่งแย่ไปใหญ่ เนื่องจากคงไม่มีใครกล้าลุกมาโบ๊ะรองพื้นเพื่อปกปิดแน่ๆ แต่ถ้าจะมีคนลุกขึ้นมาโบ๊ะบ้างก็คงจะมีแต่บรรดาผู้ชายที่เป็นเพื่อนแต๋วสว่างจิตของแตบเท่านั้นเองแหละ อิอิ ถึงแม้แตบจะยังโชคดีอยู่บ้างที่เป็นฝ้าแบบตื้น(สีน้ำตาลจางๆ)แต่ก็ไม่น่าปลื้มอยู่ดี มีอยู่ช่วงหนึ่งที่แตบซื้อครีมนั่นโน่นนี่มาใช้เองเพื่อหวังจะหาย แต่ก็ไม่เห็นจะได้ผลอะไรเลย ฝ้ายังอยู่แน่นหนาถาวรดั่งเดิมไม่แปรเปลี่ยน แตบจึงศึกษาหาข้อมูลเรื่องฝ้าตามแหล่งความรู้ต่างๆจนได้ข้อสรุปว่า "มีทางทำให้ฝ้าจางลง..แต่ไม่มีทางรักษาฝ้าให้หายขาดได้"(ต่อให้ยิงเลเซอร์ก็เถอะ)ดังนั้นแตบจึงค่อยทำใจได้และพยายามลืมๆฝ้าบนหน้าไปบ้าง แทนที่จะมุ่งมั่นหาทางรักษา แตบจึงหันมาป้องกันไม่ให้มันลุกลามด้วยการ "ทาครีมกันแดด" ที่มีค่า SPF สูงๆ (20 นาทีก่อนออกไปสัมผัสแดด) ซึ่งก็นับว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจเลยทีเดียว เพราะนอกจากป้องกันฝ้าไม่ให้ลุกลามแล้วยังช่วยป้องกันผิวไหม้จากรังสี UV ได้อีกด้วย
 แต่เมื่อไม่นานมานี้แตบได้ข้อมูลการรักษาฝ้าด้วย "หัวผักกาดขาว" โดยการนำหัวผักกาดขาวมาล้างให้สะอาด จากนั้นปอกเปลือกทิ้งแล้วฝานเป็นแว่นบางๆ นำมาโปะบริเวณที่เป็นฝ้าก่อนนอน ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด(ทำ 4 ครั้ง/สัปดาห์)หลังจากที่แตบทดลองทำอยู่สองสัปดาห์ หลายคนทักว่าหน้ากระจ่างใสขึ้น ร่องรอยของฝ้าจางลงไปมาก ซึ่งก็สร้างความพออกพอใจให้กับแตบอย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียวเชียว
 ถ้าใครสนใจวิธีนี้ก็ลองนำไปทดลองทำดูนะคะ แต่ขอบอกก่อนว่าช่วง4-5 นาทีแรกเนี่ย มันกัดหน้าจนแสบบบบบบบบบบ..แทบทนไม่ไหวเลยล่ะค่ะ(ใครไม่แสบก็แสดงว่าหน้าด้านหน้าทนผิดปกติ) แต่ด้วยความที่อยากสวย แตบจึงยอมทน ซึ่งพอผ่านพ้นช่วงเวลาด้งกล่าวไปได้ จะรู้สึกเย็นสบายหายแสบไปเยอะเลย อ้อ!วิธีนี้จะทำให้ผิวหน้าบางได้ ดังนั้นรุ่งเช้าก่อนออกบ้านไปทำงานหรือเผชิญแสงแดดก็ห้ามลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งนะคะ ไม่งั้นแทนที่จะทุเลากลับกลายเป็นหนักกว่าเดิมเอาได้
 นอกจากวิธีสวยด้วย "หัวผักกาด" แล้ว ยังมีวิธีบำรุงรักษาผิวหน้าด้วยพืชผักชนิดต่างๆอีกมากมาย ที่ http://benjawanbo.wordpress.com/ ลองเข้าไปศึกษาและทดลองทำดูนะคะ ถึงจะได้ผล หรือไม่ได้ผลบ้าง แต่อย่างน้อยๆก็เสี่ยงน้อยกว่าใช้สารเคมีแหละค่ะ..เชื่อแตบสิคะ

4 ความคิดเห็น:

always on my mind... กล่าวว่า...

ขอบคุณคุณแตบสำหรับข้อมูลดีดีนะครับ
วันหลังจะเอาไปแนะนำเพื่อนเพื่อน^^

Madame Tabb กล่าวว่า...

ยินดีค่ะ แต่ระวังบางคนอาจจะแพ้ได้นะคะ ยังไงลองเข้าไปศึกษาวิธีการสวยด้วยผักชนิดอื่นๆตามลิงค์ที่แนบมาดูด้วยก็ดีค่ะ เผื่อจะมีวิธีที่เหมาะสมกว่านี้

dream_ns@hotmail.com กล่าวว่า...

อ่ะฮ่ะ ขอบคุณมากค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ลองใช้หัวผักกาดแล้ว แสบหน้ามากเหมือนโดนนำ้ร้อนเลย แต่ว่าฝ้าก็จางลงนะถ้าใครมีความอดทนสูง ก็ลองทำดูนะคะวันละประมาณ 5นาทีก็พอคะ่ เช้า-เย็นทำสัก10วันแล้วลองสังเกตุความเปลี่ยนแปรงดู