เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แตบนำเรื่องนี้ไปไปโพสเชิญชวนเพื่อนสมาชิกในเวบบอร์ดนางงามที่แตบเป็นสมาชิกอยู่ เพื่อระดมความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน ซึ่งก็มีสมาชิกให้ความสนใจพอสมควร มีสมาชิกหลายคนติดต่อให้การสนับสนุนเข้ามาเป็นระยะๆ บางคนช่วยด้วยกำลังทรัพย์ไม่ได้แต่ก็ให้กำลังใจ บางคนอยู่ถึงต่างประเทศแต่ก็ยังมีน้ำใจโอนเงินมาสมทบมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้อย่างไม่ลังเล ขณะเดียวกันเพื่อนๆที่ร่วมเป็นแกนนำก็อาสาช่วยกันระดมทุนในหน่วยงานของแต่ละคนเป็นการใหญ่ แตบเองก็ถือโอกาศนี้บอกบุญพี่ๆที่คุ้นเคยในระแวกบ้านด้วย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
และแล้ว วันที่ 28 ก.พ. 2552 ซึ่งเป็นกำหนดการณ์การเดินทางก็มาถึง แตบพร้อมเพื่อนสมาชิกกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งจึงออกเดินทางมุ่งหน้าไปยัง จ.นครสวรรค์ในเช้าวันนั้น ในรถคันที่เป็นกลุ่มของแตบมีสมาชิกรวม 5 คน ระหว่างทางมีเพื่อนสมาชิกคนหนึ่งยืนรอมอบอุปกรณ์เครื่องเขียนให้เราได้แวะรับด้วย เสียดายที่น้องคนนั้นติดสอบจึงร่วมเดินทางไปกับเราไม่ได้ ระหว่างทางมีเพื่อนสมาชิกที่ร่วมบริจาค(แต่ไม่ได้ร่วมเดินทาง)โทรศัพท์ติดต่อทักทายและให้กำลังใจเข้ามาเป็นระยะๆ ทำให้บรรยากาศที่อบอุ่นอยู่แล้วยิ่งทวีความอบอุ่นมากขึ้น มากถึงขนาดที่ทำให้เราลืมเรื่องระยะทางไกลๆไปเลยทีเดียว
หลังจากพูดจาทักทายกันพอหอมปากหอมคอ พวกเราก็ไม่รีรอ เริ่มลงมือตรวจนับและตรวจเช็คหลักฐานการบริจาคต่างๆทันที รวมยอดเงินบริจาคทั้งหมดได้ 23,600 บาท(สองหมื่นสามพันหกร้อยบาทถ้วน) นับว่าเป็นยอดเงินที่มากเกินกว่าที่เราคาดหมายเอาไว้เสียอีก ทุกคนยินดีปรีดากันถ้วนหน้า ที่เห็นยอดบริจาคมากมายอย่างนั้น
พวกเราอารัมบทกับครูเล็กน้อยก่อนจะมอบเงินบริจาคที่พวกเรารวบรวมได้จากทั่วสารทิศก้อนนั้นให้กับครูเพื่อเป็นทุนในการใช้จ่ายสำหรับเด็กๆต่อไป โดยไม่ลืมที่จะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ช่วงที่คุณครูบุปผาและทางโรงเรียนเลี้ยงอาหารกลางวันแก่พวกเรานั้น ท่านได้ให้เกียรติเล่าประวัติความเป็นมาของโรงเรียน และเปิดเผยถึงสาเหตุในการอุปการะเด็กยากจนให้พวกเราฟัง ทุกคนฟังด้วยความตั้งใจ บางช่วงบางตอนที่ครูเล่าทำเอาพวกเราหลายคนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นการเล่าเรื่องราวในช่วงเวลาสั้นๆแต่ก็ทำให้เราได้รับรู้ว่า ความเสียสละของคุณครูบุปผานั้นมากมายกว่าที่แตบเคยรู้มาเสียอีก ถึงแม้จะมีหน่วยงานเอกชนหลายแห่งหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้เป็นระยะ แต่สภาพโรงเรียนที่พวกเราเห็นนั้นก็ยังดูไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ทั้งนี้เนื่องจากอาคารเรียนที่มีอยู่เพียงอาคารเดียวนั้นค่อนข้างจะเก่าแก่มากแล้ว เมื่อฤดูน้ำหลากมาถึง ชั้นล่างของอาคารหลังนี้จะถูกน้ำท่วมจนเสียหายทุกครั้งไป หากต้องปลูกสร้างใหม่คงจะไม่ไหวแน่นอน เนื่องจากต้องใช้เงินจำนวนมาก ทางเดียวที่พอทำได้คือ ปรับปรุงซ่อมแซมส่วนที่เสียหายไปเรื่อยๆ จนกว่าจะซ่อมไม่ไหวนั่นเอง แตบอดนึกเล่นๆไม่ได้ว่า ถ้าวันหนึ่งวันใด ไม่มีแม่พระอย่างคุณครูบุปผาแล้ว โรงเรียนแห่งนี้จะเป็นอย่างไร จะมีใครสืบสานเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของครูต่อไปไหม? อนาคตของเด็กยากจนและเด็กเร่ร่อนจะเป็นอย่างไร?..คิดแล้วใจหายจริงๆค่ะ
ยังมีคนดีในสังคมที่ยังต่อสู้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในหลายรูปแบบ ถ้าหากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป แตบอยากวิงวอนให้คุณผู้อ่านทุกคนลองกวาดตามองไปรอบๆตัวบ้างสักครั้ง หากมีโอกาสก็ลองหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เขา หรือ เธอ เหล่านั้นบ้าง แล้วคุณจะรู้ว่า ความสุขที่เกิดจากการให้มันอิ่มเอมและยิ่งใหญ่มากว่าความสุขที่ได้จากผับ-บาร์หรือสถานบันเทิงที่คุณวิ่งเร่ตามหาเสียอีก
แตบขอถือโอกาสนี้ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกไทยมิสดอทคอมทุกคน และพี่-น้องนอกบอร์ดที่มี "น้ำใจ" และให้การสนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้ ขอบคุณทุกคนที่ไม่ปล่อยให้คนดีของสังคมอย่าง "คุณครูบุปผา หมุนสา" ต้องโดดเดียวค่ะ
4 ความคิดเห็น:
โอ้ววว อิ่มบุญกันน่าดูเลยนะคะ บุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก้อคือบุญจากการให้ค่ะ คราวที่แล้วคุณน้องก็ได้ฝากเสื้อกันหนาวไปแจกเด็กบนดอยผ้าห่มปกด้วยค่ะ พี่ๆ เค้าเก็บรูปมาฝากดูแล้วรุ้สึกตื้นตันใจมากเลยค่ะ ^^
ขอทายว่า คนที่ใส่เสื้อดำใช่ปะ หุหุ
ทำจริงด้วย ผมนึกว่าจะเล่นๆ เอาจริงเลยนะครับน่ะ
ยอดมาก .....
เยี่ยมจริงๆ
...
สาธุ
อนุโมทนาสาธุด้วยครับ
โอกาสหน้า จะร่วมด้วยช่วยกันครับ พี่แตบบบบ
สวัสดีครับ เหมือนป้าแต๊บไม่ค่อยมา update blog เลยนะตอนนี้ชีวิตผมกำลังเข้าที่เข้าทางเลยได้ถกษ์ทำ blog ใหม่ ก็ลองทำของ blogger ดูมันทำได้หลายอย่างดีครับ
http://arkin-mourad.blogspot.com/
Persephone เองครับ
ปล. http://www.finalsense.com/services/blog_templates/
แสดงความคิดเห็น