วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ห้าเดือนที่หายไป

รู้สึกว่าตัวเองเกเรมากจังเลยค่ะ ที่จู่ๆก็ห่างหายไปจากการเขียนบล็อกถึงห้าเดือนติดต่อกัน ทั้งที่ความจริงแล้ว แตบยังคงแวะเวียนเข้ามาในนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้จะไม่ได้เขียนบทความอะไรเพิ่มเติมก็ตามที แต่อย่างน้อยๆก็เข้ามาทำโน่น แต่งนี่ไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว แตบก็คงไม่ต่างไปจากพลังงานอะไรสักอย่าง ที่ยังคงขับเคลื่อนอยู่อย่างเงียบๆตลอดเวลา เพียงแต่ไม่มีใครมองเห็นเท่านั้นเอง อิอิ

 ช่วงระยะเวลาที่หายเงียบไปนั้น เป็นจังหวะที่ชีวิตแตบกำลังเผชิญกับสภาพตกต่ำย่ำแย่แบบสุดๆอย่างต่อเนื่อง มีเรื่องราวไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับชีวิตเล็กๆของแตบและครอบครัวมากมายไม่เว้นวัน แน่นอนค่ะ มนุษย์ทุกคนในโลกนี้ย่อมไม่มีใครที่อยากจะมีชะตากรรมย่ำแย่อยู่แล้ว แต่ในเมื่อจนปัญญาจะหลีกเลี่ยง วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ทำใจยอมรับสภาพของตัวเองให้ได้เพื่อที่จะอยู่กับมันด้วยความรู้สึกที่เป็นทุกข์ให้น้อยลง แตบเชื่อว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม สิ่งเลวร้ายต่างๆเหล่านั้นก็จะจากเราไปอย่างแน่นอน และไม่ว่าชีวิตในวันนี้ของแตบจะเปลี่ยนแปลงในทางดีขึ้น เลวลง หรือยังทรงตัวอยู่อย่างเก่าก็คงไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรนัก เพราะแตบเริ่มเรียนรู้ที่จะบอกกับตัวเองว่า ชีวิตของคนเราย่อมมีโอกาสเผชิญทุกข์และสุขต่อไปอีกนาน ตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ขอแค่มีสติในการดำเนินชีวิตบ้าง ไม่ว่าวันนี้ หรือพรุ่งนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นอีก มันก็คงไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าจะก้าวข้ามอีกต่อไป ว่าแต่ในระหว่างห้าเดือนนั้น มีอะไรเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แตบมีรูปภาพบางส่วนมาฝากค่ะ มาดูกัน........
"ตะขบข้างบ้าน" ที่ครั้งหนึ่งแตบเคยนำเรื่องราวมาเขียนในบล็อกแห่งนี้ ปัจจุบันเหลือแต่ตอที่รอวันผุพัง นกกาที่เคยอาศัยก็พลอยหายหน้าไปสิ้น แม้นานๆจะมีหลงมาก่อตอร้องเพลงสักตัว แต่อารมณ์ที่ได้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว และหลังจากที่ต้นตะขบสิ้นชีพไปได้ไม่นาน "มะละกอ"ที่เคยถูกบดบังก็ได้โอกาสเติบใหญ่อย่างที่เห็น ขอบอกว่าช่วงที่ชักหน้าไม่ถึงหลังนั้น แตบเก็บมาตำบักหุ่งแทบทุกเย็นเลยค่ะ(ก็แตบปลูกเองนี่นา อิอิ)
นี่คือ "เจ้าแก่" พาหนะคู่ใจคันแรกของครอบครัว ที่ปัจจุบันกลายเป็นแค่ความทรงจำ อันยากจะลืมเลือนเสียแล้ว(ขาย)
ส่วนนี่คือ "น้องอิ๋ว" พาหนะคู่ใจที่แตบถนัดและใช้งานบ่อยสุด ทั้งงานหนักงานเบา..เธอไม่เคยเกี่ยง!
ยัยนี่เพิ่งถอยมาใหม่ค่ะ HONDA Scoopy-i ที่แตบเรียก"น้องหวานหวาน"(ได้รับอิทธิพลมาจากละคร "ระบำดวงดาว")
"ดอกลีลาวดี" ที่แตบเก็บมาจากข้างทางเพื่อถ่ายรูปไว้ดูเล่น จะว่าไปแล้วมันก็ทั้งสวยและมีกลิ่นหอม แต่ทำไมถึงกลายเป็นไม้ต้องห้ามของบางคนก็ไม่รู้?
วันแรกแห่งชีวิตใหม่ของเจ้า "CK" แมวน้อยพเนจรเพศผู้ที่แตบรับมาอุปการะ(ในขณะที่ตัวเองก็กำลังแย่)
วันนี้ของ "CK" ในวัยไม่ถึง 5 เดือน ที่ทั้งหล่อและนิสัยดี แต่โชคร้ายที่มี "ลมชัก" เป็นโรคประจำตัว
นี่ก็วันแรกของ"เฟื่อง" ลูกแมวเพศผู้ ที่แตบเพิ่งเก็บมาเมื่อไม่กี่วัน คืนนั้นฝนตกหนัก แตบ กลับจากซื้อของเห็นลูกแมวตัวผอมสภาพเปียกปอนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ข้างทาง ในสภาพน่าเวทนา ธรรมชาติของคนเลี้ยงสัตว์ทุกคน มักใจไม่แข็งพอที่จะเดินผ่านไปโดยไม่เหลียวแลแน่นอน และเพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น เจ้าเฟื่องก็กลายเป็นลูกแมวที่ร่าเริง แข็งแรง เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละตัวเลยทีเดียว(แล้วจะหาโอกาสนำรูปมาให้ชมค่ะ)
"เทาเทา" สมาชิกขาจร คู่หูของเจ้า"ศุภโชค"ที่มาหาแตบทีไร มักจะมีแผลเน่าเฟะมาทั้งคู่..ไม่เจ็บตัวก็ไม่ยอมมา
SHARP Mini-DV กล้องวีดีโอตัวแรกและตัวเดียว ที่ต้องตัดใจขายในราคาถูก เนื่องจากภาวะอับจนบีบบังคับ
กล้วยไม้พันธุ์แคทลียากระถางนี้เพิ่งออกช่อให้ชมเป็นครั้งแรก หลังจากที่แบ่งหน่อจากบ้านพี่สาวมาปลูกเลี้ยงอยู่นานถึง 3 ปี ..เปรียบไปก็เหมือนการทำความดีที่ทำยากและเห็นผลช้านั่นแหละค่ะ
"ออนซิเดียม แฟนซี สีลูกกวาด" ทั้งกระถางมีกันอยู่แค่ 2 ต้นเล็กๆ แต่ยังมีน้ำใจออกดอกให้ชม แถมดอกยังสวยสดใส บานทนอีกต่างหาก
"แคทลียา บิวตี้ควีนส์" หนึ่งในความภูมืใจ ที่แตบสามารถเลี้ยงดูให้ดอกดอกเองได้สำเร็จ(แม้โรงเรือนจะมีสภาพไม่เหมาะสมเท่าทีควร)
ที่โพสรูปมาเยอะแยะหลากหลาย แตบแค่อยากจะสื่อให้เห็นว่า ชีวิตของคนเรา ย่อมมีสิ่งสวยงาม และสิ่งไม่สวยงามเคียงคู่กันมาเสมอ ขึ้นอยู่ว่า เราเลือกที่จะมองสิ่งไหนเท่านั้นเอง

 ท้ายนี้แตบขอแสดงความขอบคุณสำหรับเพื่อนผู้อ่าน ที่แวะเวียนเข้ามาและฝากคำทักทายไว้เป็นระยะตามบทความต่างๆ แม้บางคนจะไม่ได้แสดงตนด้วยหลักฐานใดๆ แต่หากได้แง่คิดหรือความเพลิดเพลินติดตัวออกไปบ้าง แตบก็รู้สึกดีแล้วค่ะ

2 ความคิดเห็น:

always on my mind... กล่าวว่า...

อ่านบทความของคุณแตบแล้ว
จะได้ความรู้สึกดีดี
ในการใช้ชีวิตทุกครั้งที่อ่าน

ในความยากลำบากของชีวิตคนเรา
มีทั้งความเศร้าและความรื่นรมณย์
รวมกันอยู่เสมอ
อ่านบทความคุณแตบ
แล้วจะได้แง่คิด
ในเรื่องเหล่านี้เสมอ


ชื่นชมที่คุณแตบเผื่อแผ่
น้ำใจไปถึงเจ้าเหมียวตัวน้อยน้อย

ขอบคุณสำหรับบทความดีดีครับ^^

Madame Tabb กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่แวะมาทักทายและติชม
จริงๆแล้วแตบกับแฟนสัญญากันไว้ว่า ช่วงนี้เราจะไม่รับหมา-แมวมาเพิ่มอีก จนกว่าอาการทางการเงินของพวกเราจะดีขึ้น(เวลาไม่มีเรายังอดได้ แต่สัตว์เลี้ยงนี่สิ)
แต่อย่างที่บอกแหละค่ะ..สุดท้าย เราก็อดใจอ่อนอีกไม่ได้อยู่ดี และเมื่อเลี้ยงพวกมันแล้ว เราต้องรับผิดชอบกันไป จนกว่าจะตายจากโน่นแหละ เหอๆๆ